krusurin blog conf result
หลังจัดงานไปแล้วก็ไม่ค่อยมีเวลาว่างเอาเสียเลย... เริ่มจากพานักเรียนไปแข่งทักษะทางวิชาการที่โรงเรียนประสาทวิทยาคาร กลับมาก็ปล้ำกับงานที่โรงเรียน เลยไม่มีอารมณ์บรรเจิดพอที่จะเขียนอะไรลงไปได้...
ไม่มีอะไรที่จะกล่าวมากไปกว่าคำว่า "ขอบคุณ" สำหรับเพื่อน ๆ สมาชิกที่แวะไปเยี่ยมบ้าน ซึ่งนาน ๆ จะได้ต้อนรับแขกพิเศษสักครั้ง โดยปกติแล้วกระท่อมปลายนาหลังน้อย จะมีกันแค่พ่อแม่ลูกเท่านั้น...
บรรยากาศในวันงานช่วงกลางวันรู้สึกเงียบ ๆ จนเจ้าภาพใจแป้วว่าจะมีใครมาหรือเปล่า พอตกค่ำ ได้รับโทรศัพท์จากสองสาว ครูใหม่ กับ ครูนิตย์ ที่หาบ้านไม่เจอ เลยไปถึงภูมิโปน กว่าจะได้พบหน้ากันก็แทบแย่ แขกถัดมาคือ เพื่อนแดง ที่ย้ำนักหนาว่าให้พาภรรยามาด้วย แต่จนแล้วจนรอดก็อยากปล่อยโสตมากกว่า ๕๕๕๕ ตามมาห่าง ๆ ด้วยน้องเอก หนุ่มบ้านนอกกกกกก ที่ชอบร้องเพลงเป็นชีวิตจิตใจ ผลัดกันร้องเพลงคลอเบา ๆ พอได้บรรยากาศ กับครูนิตย์ งานวันนี้เลยดูไม่จืดชืดนัก thank you หลายเด้อน้อง สองทุ่มกว่า ขบวนของ ศน.เหลิม ครูวิทยาและคณะจึงได้เดินทางมาสมทบ...
จากการเตรียมเพลงไว้ส่วนหนึ่ง คิดว่าพอจะทำให้งานไม่เงียบเหงานัก แต่กลับพบว่าไม่มีใครสนใจเลย เน้นไปทางการสนทนาเป็นเสียส่วนมาก ด้วยเหตุว่าแต่ละคนไม่เคยพบเจอหน้าค่าตากันมาก่อน (อย่างครูวิทยา ครูนรินทร์) อีกทั้งอยู่ในช่วงไว้ทุกข์ เลยได้โอกาสพูดคุยกันอย่างจุใจ
อย่างที่ได้บอกไว้ว่าใคร ใคร่กินอะไรก็ให้นำมา... ผลปรากฎว่าทุกคน อยากกินเนื้อย่างโดยพร้อมเพรียงกัน ๕๕๕๕๕ พร้อมเพรียงกันโดยไม่ได้นัดหมายจริง ๆ งานนี้เล่นเอาเจ้าภาพต้องใช้เวลาทำลายหลักฐานเกือบสองวันเชียว นอกจากเนื้อย่างแล้ว ส้ม มะขาม ก็อีกอย่างที่ชนกันอย่างไม่ต้องสงสัย ทำอย่างกับว่าแต่ละคนจะไปไหว้เจ้าอย่างนั้นแหละ
งานนี้เลยได้ข้อคิดว่า ปีถัดไปคงต้องมอบหมายหน้าที่อย่างชัดเจนว่าแต่ละคนต้องเตรียมอะไรไปบ้าง ควรทราบจำนวนที่แน่นอน จะได้บริหารจัดการได้ง่ายขึ้น
งานนี้นอกจากบันเทิง (ซึ่งมีน้อยมาก) แล้ว ก็ยังมีเกร็ดที่แต่ละคนให้แนวคิดและนำเสนอในการพัฒนาปรับปรุง ถกปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ซึ่งในมุมมองของผมแล้วถือว่าเป็นการจบงานอย่างสวยงาม เรียกได้ว่า มีสาระบันเทิง ครบครันเลยทีเดียว
ขอบคุณอีกครั้งสำหรับ น้ำใจของผู้มาเยือนทุกท่าน ผิดพลาดประการใด ก็ขออย่าถือไปเป็นสาระ นะครับ...
ครูป๋อง
ไม่มีอะไรที่จะกล่าวมากไปกว่าคำว่า "ขอบคุณ" สำหรับเพื่อน ๆ สมาชิกที่แวะไปเยี่ยมบ้าน ซึ่งนาน ๆ จะได้ต้อนรับแขกพิเศษสักครั้ง โดยปกติแล้วกระท่อมปลายนาหลังน้อย จะมีกันแค่พ่อแม่ลูกเท่านั้น...
บรรยากาศในวันงานช่วงกลางวันรู้สึกเงียบ ๆ จนเจ้าภาพใจแป้วว่าจะมีใครมาหรือเปล่า พอตกค่ำ ได้รับโทรศัพท์จากสองสาว ครูใหม่ กับ ครูนิตย์ ที่หาบ้านไม่เจอ เลยไปถึงภูมิโปน กว่าจะได้พบหน้ากันก็แทบแย่ แขกถัดมาคือ เพื่อนแดง ที่ย้ำนักหนาว่าให้พาภรรยามาด้วย แต่จนแล้วจนรอดก็อยากปล่อยโสตมากกว่า ๕๕๕๕ ตามมาห่าง ๆ ด้วยน้องเอก หนุ่มบ้านนอกกกกกก ที่ชอบร้องเพลงเป็นชีวิตจิตใจ ผลัดกันร้องเพลงคลอเบา ๆ พอได้บรรยากาศ กับครูนิตย์ งานวันนี้เลยดูไม่จืดชืดนัก thank you หลายเด้อน้อง สองทุ่มกว่า ขบวนของ ศน.เหลิม ครูวิทยาและคณะจึงได้เดินทางมาสมทบ...
จากการเตรียมเพลงไว้ส่วนหนึ่ง คิดว่าพอจะทำให้งานไม่เงียบเหงานัก แต่กลับพบว่าไม่มีใครสนใจเลย เน้นไปทางการสนทนาเป็นเสียส่วนมาก ด้วยเหตุว่าแต่ละคนไม่เคยพบเจอหน้าค่าตากันมาก่อน (อย่างครูวิทยา ครูนรินทร์) อีกทั้งอยู่ในช่วงไว้ทุกข์ เลยได้โอกาสพูดคุยกันอย่างจุใจ
อย่างที่ได้บอกไว้ว่าใคร ใคร่กินอะไรก็ให้นำมา... ผลปรากฎว่าทุกคน อยากกินเนื้อย่างโดยพร้อมเพรียงกัน ๕๕๕๕๕ พร้อมเพรียงกันโดยไม่ได้นัดหมายจริง ๆ งานนี้เล่นเอาเจ้าภาพต้องใช้เวลาทำลายหลักฐานเกือบสองวันเชียว นอกจากเนื้อย่างแล้ว ส้ม มะขาม ก็อีกอย่างที่ชนกันอย่างไม่ต้องสงสัย ทำอย่างกับว่าแต่ละคนจะไปไหว้เจ้าอย่างนั้นแหละ
งานนี้เลยได้ข้อคิดว่า ปีถัดไปคงต้องมอบหมายหน้าที่อย่างชัดเจนว่าแต่ละคนต้องเตรียมอะไรไปบ้าง ควรทราบจำนวนที่แน่นอน จะได้บริหารจัดการได้ง่ายขึ้น
งานนี้นอกจากบันเทิง (ซึ่งมีน้อยมาก) แล้ว ก็ยังมีเกร็ดที่แต่ละคนให้แนวคิดและนำเสนอในการพัฒนาปรับปรุง ถกปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ซึ่งในมุมมองของผมแล้วถือว่าเป็นการจบงานอย่างสวยงาม เรียกได้ว่า มีสาระบันเทิง ครบครันเลยทีเดียว
ขอบคุณอีกครั้งสำหรับ น้ำใจของผู้มาเยือนทุกท่าน ผิดพลาดประการใด ก็ขออย่าถือไปเป็นสาระ นะครับ...
ครูป๋อง
ความคิดเห็น